
ไขข้อสงสัย อียิปเทียนมัว ทำไมหายาก ?
- Pet Noi
- 63 views
อียิปเทียนมัว ทำไมหายาก มีเหตุผลอะไร หรือสาเหตุไหน ที่สายพันธุ์แมวอียิปต์โบราณ จึงหายากมาก ๆ ไม่ค่อยมีใครพบเห็นบ่อยนัก ว่ากันว่าพวกมันมีบรรพบุรุษ ที่สืบเชื้อสายมามากกว่า 3,000 ปี จากแมวที่ถูกประดับประดาตามวัด ตามโถงต่าง ๆ ในอียิปต์โบราณ ทุกเหตุผล ทุกสาเหตุที่ทำให้แมวชนิดนี้ กลายเป็นแมวหายาก และราคาแพงอยู่ในบทนี้
แมวพันธุ์อียิปต์โบราณ เป็นแมวขนาดเล็กถึงกลาง จัดอยู่ในกลุ่มแมวบ้านไม่กี่พันธุ์ ที่มีจุดด่างตามธรรมชาติขึ้นบนตัว โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่ชี้ชัดให้เห็นว่า แมวพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ของอียิปต์ มีความใกล้ชิดกับ
แมวเมนคูน, แมวโคราช และแมวแองโกร่าตุรกี [1] ทั้งนี้ คำว่า “ Mau ” แปลว่า “ แมว หรือดวงอาทิตย์ในอียิปต์โบราณ ” ด้วยบรรพบุรุษ ด้วยความหมายของชื่อ ทำให้แมวพันธุ์นี้ถูกยกย่องว่าเป็น “ สายพันธุ์แมวที่เก่าแก่ที่สุด ” [2]
ที่มา: Hill’s – ข้อมูลเกี่ยวกับแมวสายพันธุ์อียิปต์เทียน โม และลักษณะนิสัย [3]
จากอัตราการหายากของแมวพันธุ์นี้ มีปัญหาเช่นเดียวกันกับแมวสายพันธุ์อื่น ๆ นั่นก็คือ ประชากรแมวอียิปเทียนมัว เคยได้รับผลกระทบเชิงลบ จากสงครามโลกครั้งที่ 2 และเมื่อสงครามสิ้นสุดลง เมื่อทศวรรษปี 1940 แมวพันธุ์นี้เกือบจะสูญพันธุ์
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า อียิปเทียนมัว ทำไมหายาก แต่ด้วยความช่วยเหลือ และความพยายามของเจ้าหญิงนาตาลี ทรูเบตสกี้แห่งรัสเซีย ได้ทำให้แมวพันธุ์นี้ไม่สูญพันธุ์ จนสุดท้ายมีสมาคมแมวหลาย ๆ ที่ติดต่อมา เพื่ออยากรักษาสายพันธุ์นี้ไว้
นับตั้งแต่ที่แมวอียิปต์เปิดตัวมา พวกมันได้รับรางวัลชนะเลิศครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1968 จากองค์กร Cat Fanciers Federation ตามมาด้วยการรับรองจาก Cat Fanciers’ Association ( CFA ) ในปี ค.ศ. 1977 และ International Cat Association ( TICA ) ในปี ค.ศ. 1979
จากนั้นก็ได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่จาก Cat Fancy ( GCCF ) ทั้งนี้ แมวพันธุ์นี้ค่อนข้างหายาก ในแต่ละปีมีลูกน้อยกว่า 200 ตัว ที่ทำการลงทะเบียนกับ GCCF ต่อมาในปี 2022 มีลูกแมวเพียง 39 ตัวเท่านั้น ที่ลงทะเบียนกับ GCCF ทำให้พวกมันได้รับความนิยม ติดอันดับที่ 27 จาก 40 สายพันธุ์
สำหรับความพิเศษของสายพันธุ์นี้ คือ อียิปเทียนมัวเป็นแมวบ้านที่วิ่งเร็วที่สุด โดยสามารถวิ่งได้เร็วถึง 30 ไมล์ต่อชั่วโมง นอกจากนี้ เมื่อพวกมันรู้สึกมีความสุข ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม พวกมันจะทำท่าทางด้วยการ
กระดิกหางแรง ๆ เหมือนสุนัข อีกทั้งยังชอบเล่นน้ำ หรือการอาบน้ำอีกด้วย แตกต่างจากแมวขนสั้น ที่อยู่ในกลุ่มแมวคัลเลอร์พอยต์ อย่าง แมวขนสั้น สีพอยต์ ที่ไม่ชอบน้ำ หรือการอาบน้ำเอามาก ๆ
แมวอียิปต์โบราณพันธุ์นี้ หากทาสแมวคนไหนได้รับเลี้ยง ถือว่าเป็นคนที่โชคดีมาก ๆ เพราะแมวพันธุ์นี้มีปฏิสัมพันธ์ และความเอาใจใส่เจ้าของค่อนข้างสูง อีกทั้งยังเป็นแมวหายากที่ซื่อสัตย์
เมื่อไหร่ที่พวกมันรู้สึกสบายใจ ไม่ว่าจะกับสภาพแวดล้อม ผู้คนรอบข้าง ของกิน พวกมันจะเป็นมิตร และเข้ากับคนได้ง่ายเลยทีเดียว ถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดี สำหรับการเลี้ยงในครอบครัว [4]
สายพันธุ์แมวที่เก่าแก่ที่สุด อีกสายพันธุ์หนึ่งจากอียิปต์ มีบรรพบุรุษที่สืบเชื้อสายมา 3,000 ปี อย่าง “ อียิปเทียนมัว ” ถือเป็นแมวที่ค่อนข้างหายากเป็นพิเศษ ไม่ค่อยมีใครพบเห็น เนื่องจากแต่ก่อนได้รับผลกระทบในเชิงลบ จากสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงทำให้ประชากรขาดแคลนไป นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกมันหายาก
แมวพันธุ์นี้ไม่ค่อยพบเห็นมากนัก ถึงแม้จะค้นหาตามศูนย์เพาะพันธุ์ ศูนย์รับเลี้ยงในอียิปต์ ทาสแมวอาจจะต้องใช้ความอดทน และความพากเพียรอย่างมาก ที่จะค้นหาแมวอียิปเทียนมัว ด้วยความหายากขนาดนี้ จึงทำให้พวกมันมีค่าตัว 800 – 2,000 ดอลลาร์ ตีออกมาเป็นค่าเงินไทยได้ 26,000 – 67,000 บาทเป็นต้นไป
ข้อดี : สายพันธุ์นี้เหมาะสำหรับครอบครัว ที่มีเด็กเล็ก ๆ อยู่ในบ้าน หากเลี้ยงร่วมกับเด็กเล็ก ๆ และสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ จะยิ่งทำให้แมวมีความสุข เนื่องจากมันสามารถสร้างความผูกพัน ที่แน่นแฟ้นภายในครอบครัวได้ นอกจากนี้ พวกมันไม่ต้องดูแลอะไรมาก แถมยังเป็นแมวฉลาด ชอบการเรียนรู้สิ่งรอบข้างอยู่เสมอ
ข้อเสีย : เป็นแมวหายากมาก ไม่ค่อยมีให้รับเลี้ยง อีกทั้งยังมีปัญหาสุขภาพให้กังวล อาทิเช่น กล้ามเนื้อหัวใจหนา นอกจากนี้ ยังเป็นแมวที่มีพลังงานสูงมาก ๆ หากเลี้ยงพวกมันไว้ในบ้านแคบ ๆ หรือห้องพักเล็ก ๆ อาจจะไม่เหมาะ เป็นต้น